|
นักลงทุนชั้นเซียน
|
นักลงทุนขี้แพ้
|
1
|
เชื่อว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือ
ต้องรักษาทุนไว้ให้ได้ ถือเป็นหลักยึดแห่งการลงทุน
|
เป้าหมายเดียวคือ “ทำเงินให้มากที่สุด” จึงมักเสียเงินไปอยู่เสมอ
|
2
|
หลีกหนี
ความเสี่ยง(อันเป็นผลมาจากอุปนิสัยแห่งชัยชนะ#1)
|
เชื่อว่ากำไรสูง ๆ มาจากความเสี่ยงสูง
ๆ เท่านั้น
|
3
|
การสร้างปรัชญาการลงทุนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง
ซึ่งเป้นสิ่งที่บ่งบอกถึงบุคลิก ความสามารถ รสนิยม และเป้าหมายของตัวเอง ดังนั้น
จึงไม่มีนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จคนไหนที่มีปรัขญาการลงทุนเหมือนกัน
|
ไม่มีปรัชญาการลงทุนของตัวเอง
หรืออย่างมากก็ใช้ปรัชญาของคนอื่น
|
4
|
พัฒนาและทดสอบระบบ
เฉพาะตัวในการเลือกหุ้น หาจังหวะเข้าซื้อและขาย
|
ไม่มีระบบอะไรทั้งนั้น
หรือไม่ก็เอาระบบของคนอื่นมาใช้โดยไม่ได้ทดสอบหรือปรับให้เข้ากับบุคลิกของตัวเอง
(พอระบบนั้นไม่ได้ผล ก็เอาระบบใหม่มาใช้ซึ่งก็ยังคง ไม่ได้ผลอยู่นั่นเอง)
|
5
|
เชื่อว่าการกระจายการลงทุนเป็นเรื่องของพวกกระจิบกระจอก
|
ไม่มีความมั่นใจที่จะลงทุนมาก ๆ
ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนอะไรก็ตาม
|
6
|
เกลียดการจ่ายภาษี
(และค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมต่าง ๆ)
จึงหาช่องทางตามกฏหมายเพื่อลดการจ่ายภาษีให้ได้มากที่สุด
|
มองข้ามหรือละเลยภาระภาษี
และต้นทุนในการทำธุรกรรมที่เกิดขึ้น จากการลงทุน
|
7
|
ลงทุนในสิ่งที่เข้าใจเท่านั้น
|
ไม่ตระหนักว่า
ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในสิ่งที่ตัวเองทำ คือปัจจัยที่นำพาพวกเขาไปสู่ความสำเร็จ
แทบไม่ตระหนักเลยว่าโอกาส ในการทำกำไร
จะอยู่เฉพาะในแวดวงของ(หรืออยู่ใกล้เคียงกับ) สิ่งที่พวกเขา มีความชำนาญเท่านั้น
|
8
|
ปฏิเสธที่จะลงทุนในสิ่งที่
ไม่สอดคล้องกับเกณฑ์ในการลงทุน ของตัวเอง
และกล้าที่จะตอบปฏิเสธต่อสิ่งที่ไม่เกียวข้องอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
|
ไม่มีเกณฑ์ในการลงทุนของตัวเอง
หรือไปเองของคนอื่นมาใช้ ไม่สามารถปฏิเสธความโลภของตัวเองได้
|
9
|
มองหาโอกาศในการลงทุนใหม่ ๆ
ให้สอดคล้องกับเกณฑ์ในการลงทุนของตัวเองอยู่เสมอ
และเอาจริงเอาจังกับการวิจัยหาข้อมูลด้วยตัวเอง แล้วชอบที่จะฟัง
เฉพาะนักลงทุนหรือนักวิเคราะห์ ผู้มีเหตุผลอันลึกซึ้งควรค่าแก่การนับถือ
|
มองหาโอกาส “1 ใน
1,000″ ที่จะทำให้เขาโชคดีเหมือนบุญหล่นทับ พวกเขาจึงชอบทำตาม “ทีเด็ดประจำเดือน” จากการฟังใครก็ตามที่ถูกยกให้เป็น
“ผู้เชี่ยวชาญ”
โดยแทบไม่เคยศึกษาการลงทุนใด ๆ
ด้วยตนเองก่อนที่จะลงเงินไปจริง ๆ ซึ่งการ “วิจัย” ของพวกเขา หมายถึงการได้ทีเด็ดมาจากโบรกเกอร์
ที่ปรึกษาหรือไม่ก็หนังสือพิมพ์ฉบับเมื่อวาน
|
10
|
เมื่อเขยังไม่เจอการลงทุนที่สอดคล้องกับเกณฑ์ของตัวเอง
พวกเขาก็มีความอดทนพอที่จะรอไปอย่างไม่มีกำหนดจนกว่าจะเจอ
|
รู้สึกว่าต้องทำบางอย่างในตลาดอยู่ตลอดเวลา
|
11
|
ลงมือทันทีเมื่อตัดสินใจดีแล้ว
อยู่กับการลงทุนที่ทำให้ได้รับชัยชนะ
|
ผัดวันประกันพรุ่ง
|
12
|
จนกว่าเหตุผลสมควรให้ขายที่คิดไว้ล่วงหน้าว่าจะอุบัติขึ้น
|
ไม่ค่อยเตรียมกฏเกณฑ์ในเรื่องของกำไรไว้ล่วงหน้า
มักกลัวว่าผลกำไรเล็กน้อย จะกลายเป้นขาดทุน จึงรีบขายเพื่อทำเงิน
ทำให้พลาดโอกาศที่จะได้กำไรมาก ๆ อยู่เสมอ
|
13
|
ทำตามระบบของตัวเองด้วยความศรัทธา
|
ชอบหาข้ออ้างให้ตัวเองไปเรื่อยๆ
เวลาไม่อยากทำตามระบบ (แม้มีระบบอยู่) โดยมักเปลี่ยนเกณฑ์ หรือ “ลดเป้า” เพื่อปลอบใจตัวเองว่าฉันทำถูกแล้ว
|
14
|
ตระหนักอยู่เสมอว่า
ตัวเองทำพลาดได้ให้รีบแก้ไขเมื่อความผิดพลาดนั้นปรากฏชัดความเสียหายที่เกิดขึ้นก็แค่ขาดทุนเล็กน้อย
|
ยังถือการลงทุนที่ผิดพลาดไปเรื่อย ๆ
โดยหวังว่า “จะได้ทุนคืน”จึงมักขาดทุนหนักอยู่เสมอ
|
15
|
มองความผิดพลาดเป็นประสบการณ์เสมอ
|
ไม่เคยใช้วิธีลงทุนใด ๆ ให้นานพอ
จนสามารถเรียนรู้ที่จะปรับปรุงแต่กลับมองหา “ยาวิเศษ” ในการแก้ปัญหาอยู่เสมอ
|
16
|
เมื่อประสบการณ์เพิ่มขึ้น
ผลตอบแทนก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทำให้ตอนนี้ใช้เวลาน้อยลงเพื่อทำเงินได้มากขึ้น
เพราะได้ “ลงทุนลงแรงไปแล้ว”
|
ไม่เคยรู่สึกว่าต้อง “ลงทุนลงแรง”อะไร
ไม่ค่อยเรียนรู้จากประสบการณ์
|
17
|
แทบจะไม่บอกใครเลยว่าตัวเองทำอะไรอยุ่
ไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับการลงทุนของเขา
|
ชอบโม้เกี่ยวกับการลงทุนของตัวเองอยู่เสมอ
ชอบ “ทดสอบ” การลงทุนของตัวเองด้วยการถามความเห็นจากคนอื่น
แทนที่จะดูเอาจากความเป็นจริง
|
18
|
แบ่งหน้าที่รับผิดชอบบางส่วนหรือทั้งหมดให้กับคนอื่น
|
เลือกที่ปรึกษาการลงทุนและผู้จัดการกองทุน
ด้วยวิธีเดียวกับที่ตัดสินใจลงทุน
|
19
|
ใช้ชีวิตต่ำกว่าฐานะของตัวเองเป็นอย่างมาก
|
ใช้ชีวิตเหนือฐานะของตัวเอง(มีคนจำนวนมากมายเป็นเช่นนี้)
|
20
|
ทำงานที่ทำอยู่
เพราะงานนั้นทำให้กระชุ่มกระชวยและเติมเต็มชีวิตของเขา ไม่ใช่ทำเพื่อเงิน
|
แรงผลักดันเกิดจากเงินเท่านั้น
คิดว่าการลงทุนคือทางลัดสู่ความร่ำรวย
|
21
|
ผูกพัน (และพอใจ) กับ “กระบวนการ” ในการลงทุนสามารถปฏิเสธหรือล้มเลิกการลงทุนใด
ๆ ได้ง่าย ๆ
|
หลงรักในสิ่งที่ตัวเองได้ลงทุนไป
|
22
|
หายใจเข้าออกเป็นการลงทุนตลอด 24 ชั่วโมง
|
ไม่ทุ่มเทเพื่อจะบรรลุเป้าหมายในการลงทุน
(แม้จะรู้ว่าเป้าหมายของตัวเองคืออะไร)
|
23
|
มีเงินของตัวเองอยู่ในสิ่งที่บริหารจัดการอยู่
|
การลงทุนไม่ได้ช่วยให้เขารวยขึ้นเท่าไรนัก
ตรงกันข้าม สิ่งที่เขาปฏิบัติในการลงทุนมักส่งผลเสียต่อฐานะของตัวเอง
เช่นการย้ายเงินส่วนอื่น ๆ อาทิ ผลกำไรจากธุรกิจ เงินเดือน เงินบำนาญ
หรือโบนัสที่ต้องจ่ายให้พนักงาน มาเพื่อลงทุน (หรือชดเชยผลขาดทุน) ของตัวเอง
|